ปะเก็นแผ่นคืออะไร?

ปะเก็นแผ่น เป็นวัสดุที่ช่วยซีลป้องกันการรั่วไหล ระหว่างพื้นผิวสองด้าน เช่น ท่อ หรือฝาปิดในเครื่องจักร โดยทำหน้าที่ช่วยป้องกันการรั่วไหลของของเหลวหรือแก๊ส และยังช่วยลดแรงสั่นสะเทือนหรือเสียงรบกวนในบางกรณี ความหมายของปะเก็นแผ่น คือ เป็นชิ้นส่วนที่ใช้วัสดุหลากหลาย เช่น เหล็ก, ยาง, หรือไฟเบอร์ เพื่อตอบสนองลักษณะการใช้งานที่หลากหลาย ในแต่ละประเภทงาน

ชนิดของปะเก็นแผ่น

กาวทาปะเก็นที่ช่าง.. เก็บเป็นความลับ??ปะเก็นแผ่นมีหลายชนิด ขึ้นอยู่กับลักษณะของวัสดุ และประเภทงานที่ใช้ ซึ่งแต่ละประเภทมีคุณสมบัติที่เหมาะสม ที่เหมาะกับแต่ละประเภทของงาน

ปะเก็นแผ่นยาง

ปะเก็นยางเป็นหนึ่งในประเภทที่พบบ่อยที่สุด ผลิตจากยางสังเคราะห์และยางธรรมชาติ มีความยืดหยุ่นสูง สามารถทนต่อสารเคมีบางชนิดได้ และราคาไม่แพง เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความยืดหยุ่น โดยเฉพาะในระบบท่อประปา และงานทั่วไปที่ไม่ต้องทนความร้อนสูง

ปะเก็นแผ่นโลหะ

ปะเก็นที่ทำจากโลหะมีความแข็งแรงสูง รองรับอุณหภูมิและแรงดันสูง มักใช้ในงานอุตสาหกรรมหนัก ที่ต้องทนอุณหภูมิสูงถึง 1,000 องศาเซลเซียส เช่น ระบบท่อไอเสีย หรือการผลิตที่ต้องใช้แรงดันสูง วัสดุที่นิยมใช้ ได้แก่ เหล็กกล้าไร้สนิม, ทองแดง, และอลูมิเนียม

ปะเก็นแผ่น PTFE

ปะเก็น PTFE โดดเด่นด้านการป้องกันสารเคมี คือ สามารถทนการกัดกร่อนจากสารเคมีรุนแรง ไม่ลามไฟ และมีพื้นผิวลื่นไม่จับสิ่งสกปรก เหมาะสำหรับงานในอุตสาหกรรมเคมี อุตสาหกรรมอาหารและยา และงานที่ต้องรักษาความสะอาดอย่างเข้มงวด สามารถทนอุณหภูมิได้ตั้งแต่ -240 ถึง 260 องศาเซลเซียส

ปะเก็นใยอัด (Compressed Fiber Gaskets)

ผลิตจากเส้นใยอัดและวัสดุยึดเกาะ มีราคาประหยัด รองรับอุณหภูมิได้พอเหมาะ และเหมาะกับอุตสาหกรรมทั่วไป โดยเฉพาะระบบท่อแรงดันต่ำและปานกลาง

ปะเก็นแผ่นกราไฟต์

กราไฟต์มีคุณสมบัติพิเศษ คือทนความร้อนสูงมาก และสามารถซีลแนบสนิทกับพื้นผิวได้ง่าย ช่วยป้องกันการเปลี่ยนแปลงสภาพจากอุณหภูมิที่ขึ้นลงอย่างรวดเร็ว นิยมใช้ในเครื่องยนต์ โรงงานผลิตพลังงาน หรือระบบท่อไอน้ำ

ข้อสรุปสำคัญ

Gasket Sheet เป็นวัสดุสำคัญ ในกระบวนการผลิต ที่ช่วยลดการรั่วไหล ระหว่างข้อต่อของชิ้นส่วนต่าง ๆ โดยมีหลายรูปแบบ ตามประเภทของวัสดุ เช่น ยาง, ซีลโลหะ, เทฟลอน, ไฟเบอร์, และGraphite ซึ่งแต่ละประเภทมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน เพื่อตอบสนองการใช้งานที่หลากหลาย เช่น การรองรับอุณหภูมิสูง, ความสามารถในการซีล, ความต้านทานทางเคมี, และความแข็งแรงภายใต้แรงอัด

การเลือกปะเก็นที่ถูกต้อง จึงต้องพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ อย่างรอบคอบ ทั้งลักษณะหน้างานจริง, ระดับแรงอัด, การเปลี่ยนแปลงความร้อน, สารเคมีที่สัมผัส, งบประมาณ, และข้อกำหนดของอุตสาหกรรม เพื่อให้ระบบทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และปลอดภัย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *